เอสเตเวา วิลเลี่ยน ปีกดาวรุ่งของ พัลไมรัส ยอมรับว่ารู้สึกเจ็บปวดใจแม้จะทำประตูใส่ เชลซี ได้สำเร็จ แต่สุดท้ายทีมต้องพ่ายแพ้ไป 1-2 ตกรอบก่อนรองชนะเลิศศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 

           โดยหลังจบทัวร์นาเมนต์นี้ เขาจะต้องเปลี่ยนสีเสื้อไปเป็นนักเตะของ สิงโตน้ำเงินคราม แต่ยืนยันจะยังคงติดตามยอดทีมแห่งนครเซาเปาโลในฐานะแฟนบอลตลอดไป

           ในเกมที่ลินคอล์น ไฟแนนเชียล ฟิลด์ เมื่อวานนี้ (5 กรกฎาคม 2568) สิงห์บลูส์ ขึ้นนำก่อน 1-0 จาก โคล พาลเมอร์ ก่อนที่ เอสเตเวา จะยิงตีเสมอเป็น 1-1 ทว่าก่อนหมดเวลา 7 นาที ทีมของเฮดโค้ช เอ็นโซ่ มาเรสก้า มาได้ประตูชัยจากจังหวะที่ เวแวร์ตอน สกัดเข้าประตูตัวเอง ทำให้ เชลซี คว้าชัยไป 2-1

           ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการหยุดเส้นทางของ พัลไมรัส ในรายการคลับ เวิลด์ คัพ เท่านั้น แต่ยังเป็นแมตช์สุดท้ายของดาวเตะวัย 18 ปีภายใต้เครื่องแบบสีเขียวของ พัลไมรัส ด้วย เนื่องจากเขาถูก เชลซี ตกลงซื้อขาดล่วงหน้าด้วยค่าตัว 28.7 ล้านปอนด์ และจะเดินทางไปสมทบกับสโมสรใหม่ทันทีเมื่อทัวร์นาเมนต์สิ้นสุดลง

           เอสเตเวา ได้กล่าวเปิดใจผ่าน แดซึ่น ฟุตบอล ว่า "ผมมีความสุขมากๆ ที่ทำประตูได้ ทำประโยชน์ช่วยต้นสังกัด แต่ก็น่าเจ็บใจที่ผลการแข่งขันไม่ได้ออกมาอย่างที่เราต้องการ ทั้งนี้ทำกันสุดความสามารถบนสนามแข่ง ลำดับต่อไปคือก้าวข้ามมัน และอยากขอบคุณ พัลไมรัส ในทุกสิ่งทุกอย่าง"

           เขายังกล่าวเสริมถึงคำสอนของพ่อที่กระตุ้นให้ทุ่มเทเต็มที่เสมอ "อย่างที่พ่อผมเคยสอนไว้ว่าแกอยากให้เค้นผลงานที่ดีสุดลงบนสนาม ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาอย่างที่เห็น ใส่สุดตัวที่มี พังตาข่ายสวยๆ แต่บางทีเราชนะทุกเกมไม่ได้ นับจากนี้ผมจะเปลี่ยนบทบาทไปตามเชียร์ พัลไมรัส แทน มีความสุขมากๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้ พัลไมรัส คือผู้เปิดประตูแก่ผม และอยากขอบคุณอย่างสุดซึ้งไปยังพวกเขาทั้งหมด"

[ เกร็ดบอล 7M ]

• เชลซี มีโปรแกรมปรี-ซีซั่นเพียง 2 เกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
• พบกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในวันที่ 8 สิงหาคม และ เอซี มิลาน ในวันที่ 10 สิงหาคม
• คาดว่า เมสซินโญ่ น่าจะมีส่วนร่วมกับทีมได้ทันท่วงที