ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ หรือ 'เอล โชโล่' เทรนเนอร์จอมแทคติกของ แอตเลติโก้ มาดริด ออกมาประกาศกร้าวว่าทุกเกมที่เหลืออยู่ข้างหน้าของทีม "ตราหมี" คือ "นัดชิงชนะเลิศ" หลังจากพาลูกทีมเอาชนะ ซีแอตเทิ่ล ซาวน์เดอร์ส 3-1 ในเกมล่าสุด โดยที่ ปาโบล บาร์รีออส มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 21 ปี ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นซัดคนเดียวสองประตู ตามรายงานจาก มุนโด้เดปอร์ติโบ ก่อนที่พวกเขาจะต้องลงสนามในเกมส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มกับ โบตาโฟโก้ ซึ่งเป็นเกมชี้ชะตาเพื่อแย่งตั๋วเข้ารอบน็อกเอาท์

           "จากนัดแรกเป็นต้นไป เกมทั้งหมดที่อยู่ข้างหน้าเราคือนัดชิงชนะเลิศ" ซิเมโอเน่ กล่าว "ไม่มีอะไรที่เราทำได้นอกจากการคว้าชัยชนะ"

           เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ยังได้กล่าวถึงผลงานในนัดล่าสุดที่ผ่านมาว่า "ทีมเล่นได้ดีมากในช่วง 30 นาทีแรก เราน่าจะทำได้ 3 หรือ 4 ประตู หากไม่ใช้ผู้รักษาประตูที่ดีและความจริงคือเราขาดความแข็งแกร่ง จากนั้นก็มาถึงจุดโทษ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ส่งผลดีต่อเรา ครั้งนี้พวกเขาตัดสินว่าไม่ใช่จุดโทษ"

           "เราเข้าช่วงพักครึ่งด้วยข้อได้เปรียบในเกม เราทำประตู 2-0 หลังจากช่วงพักครึ่ง เราทำผิดพลาดในช่วงต้นครึ่งหลังที่ปล่อยให้พวกเขาบุกกดดันเรา และพวกเขาทำประตูได้ในสถานการณ์แปลกประหลาด โชคดีที่เราทำประตู 3-1 ด้วยประตูสุดสวยจาก ปาโบล ทำให้เกมกลับมาเข้าทางอีกครั้ง"

           "เรามีโอกาสโต้กลับ ซึ่งเราน่าจะใช้ประโยชน์ได้ดีกว่านี้ และผมออกจากสนามด้วยความรู้สึกที่ดี ทีมบุกได้ดี เราสร้างสถานการณ์อันตราย เราสามารถทำประตูได้มากกว่านี้ และหนทางที่จะตามมาคือการเล่นแบบนั้น"

           นอกจากนี้ ซิเมโอเน่ ยังกล่าวชื่นชมฟอร์มอันร้อนแรงของ ปาโบล บาร์รีออส ที่ซัดคนเดียวสองประตูในเกมนี้ว่า "การต้องการให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เราต้องการให้เขาเข้ามาในกรอบเขตโทษช้าๆ เหมือน คอเนอร์ เมื่อ คอเนอร์ เล่นทางซ้าย เราเลือก โกเก้ ให้เล่นบอลมากขึ้น"

           " บาร์รีออส ทำให้เราสบายใจในการเล่นของเรา เขาเล่นได้ยอดเยี่ยมจนกระทั่งเราเปลี่ยนตัวเขาออก ทางขวาที่มี โรดรีโก้, จูเลียโน่ และ มาร์กอส พวกเขาสามารถสร้างปัญหาให้ฝ่ายตรงข้ามได้เสมอ"

[ เกร็ดบอล 7M ]

• ปรัชญาการทำทีมของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ที่เน้นระเบียบวินัยเกมรับและความเข้มข้นในการเล่น ทำให้ผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางต้องทำงานอย่างหนักทั้งรุกและรับ 
• การที่ ปาโบล บาร์รีออส มิดฟิลด์ดาวรุ่งสามารถทำประตูได้ถึง 2 ลูกในเกมเดียว แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการและความเข้าใจในแทคติกของ 'เอล โชโล่' โดยเฉพาะบทบาทที่ ซิเมโอเน่ กล่าวถึงการ "เข้ามาในกรอบเขตโทษช้าๆ เหมือน คอเนอร์ กัลลาเกอร์" บ่งบอกว่าเขากำลังพยายามเพิ่มมิติในเกมรุกให้กับกองกลาง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการเผชิญหน้ากับเกมที่บีบหัวใจ และทำให้ทุกนัดเป็นเหมือน "นัดชิงชนะเลิศ" อย่างที่กุนซือรายนี้กล่าวไว้